ที่เล่าผ่านๆมานั้นเป็นชีวิตในวัยมัธยม...ฉันอาจโชคดีที่มีแม่ที่มีความรู้และสมองเปิดกว้างกับชีวิตในอนาคต..แต่โชคร้ายนั้นคือ คุณพ่อเสียชีวิตด้วยโรคไต ตั้งแต่ฉันอายุสิบสองย่างสิบสาม...เพียงแต่แม่เป็นส่วนหนึ่งในกิจการครอบครัวเราจึงไม่รู้สึก..ว่าอะไรขาดหายไป และแม่ฉันก็เป็นหญิงใจเด็ดเสียด้วย...ครองความเป็นม่ายมาตลอด..ตั้งแต่อายุเพียงสามสิบห้า.. เพราะคงเป็นห่วงฉันมากกว่าสิ่งใดนั่นเอง...สังคมที่ในบ้านที่เล่ามานั้น..นับว่าแปลก..จากชุมนุมในกลุ่มเพื่อนในทีแรก..ตอนหลัง เพื่อนก็พาพี่สาวมาด้วย...หนุ่มๆประจำเหล่าก็พารุ่นพี่มาสมทบ...พี่สาวเพื่อนเป็นพยาบาล ก็พาเพื่อนนักเรียนแพทย์มาร่วมวง...เป็นงะ...พอนึกภาพออกไหม? ฉันถึงมีเพื่อน..และ..เพื่อนรุ่นพี่มากมาย...สมัยก่อน..ไม่มีที่ให้เด็กวัยรุ่นได้เที่ยวมากนัก..นอกจาก ดูหนัง ฉันพูดได้เลย..ว่าหนังทุกเรื่องเมื่อยามนั้น..ได้ดูทุกเรื่อง ดูจนดูซ้ำบ่อยๆเพราะโปรแกรมเปลี่ยนไม่ทัน..บ้านฉันจึงเป็นเหมือนที่พักใจ ที่ทำให้ใครหลายๆคนไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทาง...ในบางครั้งเด็กๆแค่ต้องการคุยกัน..แลกเปลี่ยนทัศนะคติ..สนุกสนานตามวัย ยิ่งมีคนมากมายจึงต้องคิดให้ดี เพราะตัวเลือกเยอะ..ไม่ต้องรีบ อย่างคุยกันเล่นๆนะ...ว่า อุ๊ย วันนี้ชอบพี่คนนี้จังเลย...แต่ไม่อาวงะ พี่คนโน้นเท่ห์กว่า เสียดายอาทิตย์นี้ไม่มา....ก็เที่ยวไปปลื้มคนโน้นทีคนนี้ที..ก็เท่านั้น
จากคุณ : wiwanda (WIWANDA) - [12 ก.ค. 02:39:34]